เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ผู้ปฏิวัติเกมรับลิเวอร์พูล
March 23, 2020ต้องบอกเลยว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค คือผู้ปฏิวัติเกมรับลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้หงส์แดง กลายเป็นเจ้ายุโรป และกำลังจะได้ แชมป์พรีเมียร์ ลีกสูงสุด ของอังกฤษ แม้ว่าตอนนี้จะเลื่อนการแข่งขันออกไป แต่อย่างไรก็ตามได้มีการยืนยันออกมาแล้วว่า ไม่ยกเลิกผลการแข่งขันอย่างแน่นอน เพราะ นอกจากลิเวอร์พูลแล้ว การยกเลิกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกยังสงผลกระทบกับ ทีมที่เลื่อนชั้นอีกด้วย อาจเป็นปัญหาเกี่ยวโยงกับรายได้ของสโมสร ซึ่งเมื่อคิดเป็นตัวเลขทั้งหมดของลีกในประเทศนั้น ค่อนข้างมหาศาลเลยทีเดียว และตอนนี้ ก็กำลังจะวางแผนให้กลับมาเตะต่อให้จบ แต่ในช่วงไหนนั้น ต้องติดตามกันอีกทีครับ ซึ่งตอนนี้ทีมของ เวอร์จิลฟานไดจ์ค คะแนน นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 25 แต้ม ในทางทฤษฎีแล้ว ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ในทางปฏิบัติ คิดว่าพวกเขาคงจะพลาดยากอย่างแน่นอน
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เปลี่ยนผลงานทีมยกแผง
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ลิเวอร์พูลในช่วงที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุม เล่นเกมเพรสซิ่งสูง ไล่ตัดเกมตั้งแต่แดนของคู่แข่ง และ บีดให้คู่แข่งเล่นเร็วจนเสียบอล ซึ่งที่ทำได้เช่นนี้ก็เพราะ นักเตะทุกคนมีความเข้าใจรูปแบบของการเล่นสูง ทั้งกองหน้าตัวหลักทั้ง สามคน ต่างก็เข้าใจหน้าที่ และทำผลงานออกมาได้ดี นอกจากนี้ ด้วยทักษะของนักเตะยังสามารถเลือกรูปแบบการเข้าทำได้หลากหลาย ยากที่จะป้องกัน และด้วยความเร็วของกองหน้าริมเส้น อย่าง ซาดิโอ มาเน่ , โมฮาเม็ด ซาร่า ที่มีสปีดต้นจัดจ้านมาก จึงทำให้ กองหน้าตัวหลอกอย่าง โฮแบร์ตู ฟีร์มีนู มีทางเลือกในการเล่น ซึ่งไม่ว่าจะยิงเอง หรือส่งให้คนไม่มีบอล ก็ทำได้ง่ายเช่นกัน แถมยังมีการเติมเกมส์ทางริมเส้นทั้ง 2 ข้าง โดย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน ซึ่งบ่อยครั้งที่สามารถทำประตูได้จากการแอสซิสต์ของ 2 คนนี้ ทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกเพิ่มมากขึ้นอีก แต่ในบางครั้ง เกิดความผิดพลาด และ ลงไม่ทัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตัวริมเส้นของทุกทีมมีความเร็วสูง ทำให้การโดนสวนลักษณะเช่นนี้ มีโอกาสเสียประตูค่อนข้างมาก ปัญหานี้ได้หมดไปจากลิเวอร์พูลเมื่อมี เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยืนเป็นปราการหลังตัวสุดท้ายครับ แม้ว่าเข้าจะเป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ 193 cm. ที่เขามีไม่ได้ทำให้ความเร็วลดลงเลย บ่อยครั้งจะเห็นเขาวิ่งแซงกองหน้าที่มีความเร็วสูง และ สกัดบอลได้ ส่วนเรื่องการเข้าปะทะไม่ต้องพูดถึง เพราะการเข้าสกัดของเขามีทั้งความแม่นยำและ แข็งแกร่ง ในบางครั้ง เจอสถานการณ์ 2 ต่อ 1 เขาเองก็ยังสามารถอ่านทางบอลจนสกัดได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้เข้าคือกองหลังเบอร์ 1 ของพรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ยังสามารถเรียกความมั่นใจของเพื่อนร่วมทีมได้อีกด้วย เพราะไม่ว่าใครที่ได้ยืนคู่กับเขา ก็พลงานดีทั้งนั้น ยิ่งผู้รักษาประตูด้วยแล้ว การที่ได้รับบอลจากมุมที่ตัวเองถนัดถือเป็นเรื่องง่าย แน่นอนว่าการบังเหลี่ยมที่อันตรายแทบทุกจังหวะคือ ฟาน ไดจ์ค นั่นเอง นอกจากนี้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยังปิดจุดอ่อนของเรื่องลูกกลางอากาศที่ถือว่าเป็นบ่อน้ำมันของลิเวอร์พูลมายาวนาน ด้วยความสูง 193 cm และการกระโดดที่สูง + น้ำหนักตัว 92 กิโลกรัม การโถมขึ้นโหม่งจึงมีประสิทธิภาพสูงไม่ใช้แค่ป้องกัน แต่เขาสามารถยังทำประตูได้บ่อยครั้งจากลูกนิ่งอีกด้วย
